Advertisement

การปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศไทย

ปาล์มน้ำมันนั้นเป็นพืชประจำถิ่นและมีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบแอฟริกาตะวันตก และชาวโปรตุเกสได้นำเข้ามาปลูกในเอเชียราว ๆ ปี พ.ศ. 2391 ในประเทศอินโดนีเซีย และกระจายเข้าในยังเกาะสุมาตราในช่วงปี พ.ศ. 2396-2400 และหลังจากนั้นไม่นานก็มีการปลูกเพื่อการค้าขายกันอย่างจริงจังในราวปี พ.ศ. 2454 ซึ่งในเกาะสุมาตรานั้น มีพื้นที่ปลูกปาล์มมากกว่า 22,500 ไร่

สำหรับประเทศไทยของเรานั้นเริ่มมีการนำปาล์มน้ำมันเข้าปลูกประมาณปี พ.ศ. 2472 โดยเริ่มปลูกเป็นไม้ประดับ ที่สถานีทดลองยางคอหงส์ จังหวัดสงขลา และสถานีกสิกรรมพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี และได้มีการศึกษาและทดลองอย่างจริงจังและสนับสนุนให้ปลูกเพื่อการค้าราวปี พ.ศ. 2511โดยการปลูกปาล์มน้ำมันในประเทศไทยเรานั้นแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะแรก (ช่วงปี พ.ศ.2472-2525) เป็นช่วงเริ่มต้นปลูก ทำให้การขยายพื้นที่ปลูกยังเป็นไปได้ช้าและยังไม่เป็นที่รู้จักเท่าใดนัก และระยะที่ 2 (ช่วงปี พ.ศ.2525-2545) เป็นระยะที่มีการแพร่ขยายพื้นที่การปลูกอย่างกว้างขวาง รวดเร็ว

โดยเริ่มต้นนั้นในช่วงระยะแรกเริ่มทำการทดลองปลูกกันที่ นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้ จังหวัดสตูล โดยใช้พื้นที่ประมาณ 20,000 ไร่ และอีกจุดที่มีการทดลองปลูกในช่วงแรกคือ โครงการ บริษัท อุตสาหกรรมน้ำมันและสวนปาล์ม จำกัด (สวนเจียรวานิช) ตำบลปลายพระยา อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ พื้นที่ปลูกประมาณ 20,000 ไร่เช่นกัน เมื่อเข้าระยะที่ 2 เกิดการขยายตัวเร็วมาก โดยเฉลี่ยพื้นที่การปลูกในช่วงระยะที่ 2 นั้นขยายตัวถึงปีละ 50,000-100,000 ไร่

รู้จักกับปาล์มน้ำมัน

เมื่อพูดถึง “ปาล์ม” ทุกคนก็คงคิดถึงต้นไม้ที่มีลักษณะคล้ายๆ ต้นมะพร้าว แต่เตี้ยกว่าต้นมะพร้าว และมีลูกกลม เล็ก เป็นพวง อยู่ที่ใกล้โคนก้านใบ และผลิตผลที่ได้จากปาล์มที่มักจะรู้จักกันดีก็คือ น้ำมันพืช ที่ผลิตจากผลของปาล์ม และที่ฮือฮาที่สุดคือ สามารถใช้ผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีอยู่ในโลกของเรา

ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นคือ ความเข้าใจเบื้องต้น ที่เราทุกคนน่าจะพอมีความรู้ความเข้าใจพอสมควร แต่รู้หรือไม่ว่าหากเราศึกษาเกี่ยวกับปาล์มลงไปลึกกว่านั้น จะทำให้เรารู้ว่า ปาล์มนั้นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง มากมายหลายชนิด และไม่เฉพาะแค่น้ำมันเท่านั้นที่มีประโยชน์ แต่กากที่รีดเอาน้ำมันออกหมดแล้วก็ยังมีประโยชน์ ใบก็มีประโยชน์ เรียกได้ว่ามีประโยชน์แทบทุกส่วนเลยก็ว่าได้  นอกจากการนำน้ำมันปาล์มมาใช้ในการเป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร เช่น การผลิตนมข้นหวาน ครีมเทียม เนย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  และยังสามารถนำมาผลิตสบู่ที่เราใช้อาบน้ำได้อีกด้วย ส่วนทางใบปาล์มสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการคลุมผิวดินในแปลงเพาะปลูก ส่วนลำต้นปาล์มที่ไม่ใช้แล้วสามารถนำมาผลิตเครื่องเรือนได้ เช่นกัน

การปลูกปาล์มน้ำมัน

สำหรับปาล์มน้ำมันนั้นเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อนชื้น ซึ่งลักษณะภูมิอากาศ ภูมิประเทศเช่นนี้จะมีอยู่ในทางตอนใต้ของประเทศไทยเรา ทำให้ในจังหวัดภาคใต้ของเรานั้นมีการปลูกปาล์มน้ำมันเยอะกว่าภาคอื่น ๆ

1. การเตรียมพื้นที่
ถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการปลูกปาล์มน้ำมัน เพราะจะเป็นตัวกำหนดแนวทางและวิธีการทำงานต่าง ๆ หากเรามีการเตรียมการที่ดี ก็จะทำให้การปลูกนั้นสามารถดำเนินไปได้อย่างสะดวกและราบรื่นเป็นอย่างดี

– ถนน ต้องปรับพื้นที่เพื่อทำถนน 2 ขนาดคือ ขนาดกว้าง 6 เมตรเพื่อเป็นถนนหลัก ระยะห่างประมาณ 1 กิโลเมตร และ ถนนขนาดกว้าง 4 เมตร ระยะห่างทุก 500 เมตร (ถนนซอย)
– คลองน้ำ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีคลองน้ำเพื่อใช้ในการระบายน้ำ แนะนำให้ทำคลองระบายน้ำตามแนวข้างถนน เป็นรูปตัวยู โดยด้านบนกว้างประมาณ 1 เมตร ลึก 1 เมตร
– การเตรียมระยะปลูกหรือวางผังปลูก โดยทั่วไปนิยมปลูกเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่าขนาด 8 เมตร ถึง 10 เมตร
– การปลูกพืชคลุมดิน อีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญ ซึ่งสามารถช่วยลดวัชพืชและชะลอการชะล้างหน้าดินได้ การปลูกพืชคลุมดินนั้น ควรเริ่มตั้งแต่ต้นปาล์มยังเล็กอยู่ และควรห่างจากต้นปาล์มประมาณ 1.5 เมตรรอบด้าน

2. ขั้นตอนการปลูก
– โดยทั่วไปนิยมปลูกโดยเว้นระยะเป็นสามเหลี่ยมด้านเท่า ระยะที่นิยมที่สุดคือ 9x9x9 เมตร จะได้ประมาณ 22-25 ต้นต่อไร่

– ต้นกล้าต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 8 เดือน (อยู่ระหว่าง 8-14 เดือนกำลังดี)

– ต้องปลูกช่วงหน้าฝน (หลังปลูกต้องมีฝนอย่างน้อย 3 เดือน)

การเก็บเกี่ยวผลผลิตปาล์มน้ำมัน

โดยทั่วไปแล้วการเก็บเกี่ยวนั้น จะเป็นในรูปของการเก็บปาล์มน้ำมันแบบสดทั้งทะลาย เพื่อนำเข้าโรงงานแปรรูปอีกต่อหนึ่ง ซึ่งมีกระบวนการและรายละเอียดดังนี้

– ต้องเก็บผลปาล์มที่สุกพอประมาณ ไม่ดิบหรือสุกนานเกินไป โดยสังเกตผลสุกจากสีที่เปลี่ยนจากเขียวเป็นส้ม และจะมีผลสุกร่วงจากทะลายประมาณ 10-12 ลูก
– ทะลายต้องตัดให้สั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่บอบช้ำ ไม่เน่าเสีย ไม่มีแมลงกัดกิน ไม่เป็นโรค ไม่มีกาบหุ้ม
– พยายามไม่ให้ลูกปาล์มมีบาดแผลหรือบอบช้ำ
– ต้องเก็บผลปาล์มที่ร่วงบนดินออกให้หมด
– ต้องส่งปาล์มที่ตัดแล้วให้ถึงโรงงานภายใน 24 ชั่วโมง

การแปรรูปปาล์มน้ำมัน

เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการแปรรูปปาล์มน้ำมัน จะให้น้ำมันปาล์มออกมาซึ่งสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มากมายดังที่เราได้กล่าวไว้ในข้างต้น โดยกรรมวิธีในการแปรรูปนั้นมีรายละเอียดดังนี้

1. การอบทะลายด้วยไอน้ำ (Sterilization)
เริ่มต้นด้วยการอบทะลายปาล์มด้วยความร้อน 130-135 องศาเซลเซียส ในความดัน 2.5-3 บาร์ ใช้เวลาประมาณ 50-75 นาที

2. การแยกผล (Stripping)
เมื่ออบทะลายปาล์มเสร็จ ก็ส่งเข้าเครื่องแยกผลปาล์มออกจากทะลาย เราจะได้เฉพาะลูกปาล์ม ส่วนทะลายนั้นจะถูกแยกออกไป และนำผลที่ได้เข้าเครื่องย่อยผลปาล์ม เพื่อแยกเนื้อปาล์มออกจากเมล็ด

3. การสกัดน้ำมัน (Oil Extraction)
นำเนื้อปาล์มที่ได้จากการแยกเมล็ดออกแล้วเข้าเครื่องอบที่อุณหภูมิ 90-100 องศาเซลเซียสใช้เวลา 20-30 นาที แล้วนำเข้าเครื่องหีบแบบเกลียวอัดคู่ บีบอัดเพื่อให้ได้น้ำมันปาล์ม โดยน้ำมันที่ได้จะประกอบไปด้วย น้ำมัน 66% น้ำ 24% และของแข็งอื่นๆประมาณ 10%

4. การทำความสะอาดน้ำมันปาล์มดิบ
หลังจากผ่านการสกัดและได้น้ำมันปาล์มดิบมาแล้ว ขั้นต่อมาคือการทำความสะอาด คัดแยกของแข็งที่ปนมาและระเหยน้ำออกเพื่อให้ได้น้ำมันปาล์มที่สะอาดและบริสุทธิ์จริงๆ เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *