12/11/2024 (Business Today) – บริษัท ซาราวัก ออยล์ ปาล์มส์ เบอร์ฮัด (SOP) มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องจากราคาปาล์มน้ำมันดิบ (CPO) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งล่าสุดพุ่งทะลุระดับ 5,000 ริงกิตต่อตัน
แนวโน้มเชิงบวกนี้ทำให้นักวิเคราะห์จากธนาคารการลงทุน RHB Investment Bank Bhd (RHB Research) ยืนยันคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับหุ้น SOP พร้อมปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 4.15 ริงกิต ซึ่งบ่งชี้ถึงโอกาสในการทำกำไร 16% จากราคาปัจจุบันที่ 3.59 ริงกิต RHB Research วิเคราะห์ว่า มูลค่าของ SOP ยังคงน่าสนใจ แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยซื้อขายที่ระดับเพียง 8.2 เท่าของกำไรคาดการณ์ ซึ่งต่ำกว่าช่วง 7-11 เท่าของอุตสาหกรรม
แรงหนุนที่ผลักดันราคา CPO ให้ปรับตัวสูงขึ้นเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น 18% ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสนับสนุนราคา CPO นอกจากนี้ การล่าช้าในการปลูกพืชในช่วงต้นฤดูกาลในอเมริกาใต้ส่งผลกระทบต่อพืชพรรณถั่วเหลือง ทำให้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น 14% ในช่วงที่ผ่านมา
แม้ว่าประเทศไทยจะมีระดับการผลิตปาล์มน้ำมันค่อนข้างต่ำ แต่การตัดสินใจชั่วคราวของไทยในการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มได้เพิ่มแรงกดดันต่อตลาด ปัจจัยเชิงเก็งกำไร เช่น แนวโน้มทางประวัติศาสตร์จากผลการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็มีบทบาทเช่นกัน โดยราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันถั่วเหลืองมักจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2559
มองไปข้างหน้า ช่วงที่เหลือของปี 2567 อาจยังคงเห็นกิจกรรมการเก็งกำไรในตลาด CPO โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์สนับสนุนให้ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับสูง RHB Research คาดการณ์ว่า แม้ว่าในที่สุดราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง แต่ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 4,000 ริงกิตต่อตันในระยะสั้น
ปัจจัยพื้นฐานสำหรับปี 2568 ก็ดูมีแนวโน้มสนับสนุนเช่นกัน เนื่องจากสถาบันวิจัยชี้ให้เห็นถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ผลผลิตปาล์มน้ำมันและระดับสต็อกต่ำในอินโดนีเซีย และมาตรการบังคับใช้ไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้น การตึงตัวของอุปทานในตลาดน้ำมันพืชชนิดอื่น เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันเรพซีด และน้ำมันคาโนลา อาจส่งผลให้เกิดการขาดดุลน้ำมันพืชและไขมันทั่วโลกในปีหน้า ซึ่งอาจผลักดันราคาพืชน้ำมันให้สูงขึ้น
Leave a Reply